วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ความรู้เรื่องบล็อก

Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog)


ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง


Web log หรือเรียกสั้นๆ ว่า blog (บล็อก) เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะนำเวบไปใช้งานในรูปแบบอื่น ให้อธิบายง่ายๆ blog คือ ไดอารี่ออนไลน์นั่นเอง เริ่มจากเราทำการสมัครสมาชิกของ blog หรือจะตั้งเซิร์ฟเวอร์เองก็ได้ แล้วก็เขียนเรื่องราวต่างๆ ตามใจชอบ โดย blog จะแสดงผลตามวันเหมือนกับไดอารี่ทุกประการ หลายคนอาจเกิดคำถามว่า แล้วจะเขียนเรื่องอะไรลงใน blog ของเราดีล่ะ อันนี้หลากหลายมาก (เหมือนกับเราเขียนไดอารี่นั่นแหละ) บางคนอาจจะบันทึกเรื่องที่เจอในแต่ละวัน บางคนอาจจะเขียนวิจารณ์ข่าวสารบ้านเมือง บางคนอาจจะแนะนำเวบไซต์ที่เจอมาในวันนั้น แต่งกลอน โพสรูปที่ไปเที่ยวมา หรือบางครั้งก็ร่วมกันเขียนเป็นทีม ขึ้นกับเจ้าของ blog ว่าต้องการเขียนไปในทางไหน

มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็นต้น


จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง


ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทำกันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ในปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น


ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq


เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่าวชั้นนำ จวบจนกระทั่งปี 2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสำนักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องการเมือง ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติ


และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ, สิ่งพิมพ์, โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สำคัญอย่างแท้จริง


สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย


ทำไม blog ถึงมีค่าแก่การพูดถึง? อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว การเขียน blog ฟังดูธรรมดามากเลยใช่มั้ยค่ะ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสิ่งที่ฮิต และอินเทรนด์ที่สุดบนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว ดิฉันลองมานั่งนึกสาเหตุที่ทำให้ใครๆ ก็ติด blog มาได้หลายประการดังนี้ค่ะ

1.
เขียน blog เหมือนกับเล่นเวบบอร์ด

กฎข้อแรกของการสร้างเวบไซต์ให้ติดตลาด คือ ต้องทำให้ผู้ชมกลับมาเยี่ยมเวบของเราอีกให้ได้ และวิธีที่ง่ายและได้ผลที่สุดคือ สร้างชุมชนของผู้ชม (Community) ให้เกิดขึ้นบนเวบของเรา เพราะเหตุนี้จึงทำให้เวบที่เน้นการสนทนาผ่านเวบบอร์ดอย่าง Pantip.com กลายเป็นเวบไซต์อันดับหนึ่งของเมืองไทยมาหลายปี blog เป็นการแสดงความคิดเห็นของเราให้คนอื่นอ่านวิธีหนึ่ง เพียงแต่เป็นเวบบอร์ดส่วนตัวที่คนเขียนคือเจ้าของ blog เท่านั้น (ผู้ชมสามารถแสดงความเห็นได้เป็น comment)

2.
เขียน blog ไม่ต้องระวังเท่าเวบบอร์ด

จุดอ่อนของเวบบอร์ดคือคนเยอะ และเมื่อเกิดความขัดแย้งกัน ก็จะทะเลาะกันใหญ่โต Pantip.com เจอปัญหานี้มากจนต้องตั้งระบบสมาชิกที่เข้มงวด ทำให้ลำบากในการสมัคร blog เข้ามาทดแทนในจุดนี้ได้พอดี เราสามารถเขียนอะไรลงใน blog ของเราก็ได้โดยไม่ต้องกลัวใครว่า ไม่ต้องกลัวข้อมูลมั่ว (เพราะว่าเป็น blog ของเรานี่นา) ทำให้หลายๆ คนเกิดความสบายใจในการเขียน blog มากกว่าเวบบอร์ดที่มีคนมาคอยเถียงหรือจับผิด

3. blog
มีเนื้อหาต่อเนื่อง

คนที่สนใจในเรื่องเดียวกันก็มักจะเข้าเวบบอร์ดเฉพาะเรื่อง แต่ปัญหาอีกอย่างของเวบบอร์ดคือ กระทู้ตกเร็ว และแต่ละกระทู้ไม่ต่อเนื่องกัน เพราะต่างคนต่างโพส แต่ blog นั้นเป็นของเจ้าของคนเดียว เขียนคนเดียว สามารถควบคุมความต่อเนื่องของเนื้อหาได้สะดวกกว่า ยิ่งเจ้าของ blog นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่เราสนใจพอดี นี่จะสนุกมากเลยค่ะ ได้อ่านอะไรๆ ที่วงในเค้ารู้กันได้จาก blog นี่ล่ะ

4.
มันก็เหมือนแอบอ่านไอดารี่คนอื่น


การแอบอ่านไดอารี่เป็นอะไรที่ไม่ดีแต่สนุกมาก blog นั้นกลับกัน เป็นไดอารี่ที่อยากให้คนอื่นอ่าน ดังนั้นเจ้าของ blog จะประดิษฐ์ ประดอยหาเรื่องที่น่าสนใจมาเขียนให้อ่าน ทำให้เรื่องใน blog นั้นก็น่าสนใจมากขึ้น

Light Blogging การวิวัฒนาการของ Blog

โลกของเทคโนโลยีมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา แถมเร็วซะด้วย ลองนึกย้อนไปถึงเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน ในช่วงนั้นคนไทยได้รู้จักบล็อกกันเป็นวงกว้างและมีการให้บริการพื้นที่บล็อกขึ้นอย่างมากมาย รวมทั้งผู้ให้บริการที่เป็นชาวไทยเองก็มีหลายแห่งที่เปิดบริการพื้นที่บล็อกในคนไทยได้ใช้เช่น exteen.com หรือ bloggang.com เป็นต้น ซึ่งตัวบล็อกเองนั้น หากให้อธิบายก็น่าจะอธิบายได้ว่าเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเขียนบันทึกได้ในรูปแบบที่เก็บไว้บนออนไลน์ โดยมีจุดเด่นคือใส่รูป ใส่วีดีโอได้ แถมเรียงลำดับแบบใหม่ไปหาเก่า เรียกได้ว่าพอคนเข้ามาอ่านในบล็อก จะเห็นบทความใหม่ล่าสุดอยู่ที่หน้าแรกเสมอ
เวลาผ่านไป บล็อกก็ถูกวิวัฒนาการไปเรื่อย และสิ่งที่เราเห็นในยุคต่อมาก็คือเมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน คนไทยก็เริ่มรู้จักบริการไมโครบล็อก (Micro Blog) ที่ชื่อทวิตเตอร์ ซึ่งทวิตเตอร์เองนั้นจะเน้นให้ผู้ใช้สามารถเขียนบล็อกได้ในรูปแบบที่เป็นข้อความสั้น คือเขียนได้ไม่เกินครั้งละ 140 ตัวอักษร แถมยังใส่ได้แต่ตัวอักษรเท่านั้น หากอยากใส่รูปภาพอาจต้องไปฝากไว้ที่อื่นแล้วแสดงเป็นลิงค์ให้ไปคลิกดูแทน โดยไมโครบล็อกนี้พัฒนามาเพื่อคนที่อยากเขียนบล็อก แต่อาจจะยังไม่อยากเขียนแบบยาว ๆ ซึ่งแบบนี้สามารถทำให้คนเขียนได้สะดวกขึ้น บ่อยขึ้น โดยมีอุปกรณ์สำคัญคือโทรศัพท์มือถือที่ช่วยทำให้ไมโครบล็อกนี้เติบโตครอบครองใจมหาชน
และล่าสุดนี้ วิวัฒนาการของบล็อก ก็ได้ถูกพัฒนามาเป็นสิ่งที่เรียกว่า ไลท์บล็อก (Light Blog) จะว่าเป็นลูกครึ่งระหว่างบล็อก และไมโครบล็อกก็ได้ คือเหมาะสำหรับเขียนแบบไม่ยาวมาก แต่ก็สามารถใส่ได้มากกว่า 140 ตัวอักษร มีให้เลือกได้เลยว่าเราอยากใส่รูปเฉย ๆ ก็ได้ หรืออยากเขียนบทความเฉย ๆ ก็ได้ หรือแม้กระทั่งแค่การแชร์ลิงค์เว็บที่ไปเจอมาก็ได้ โดยระบบของไลท์บล็อก มักจะพัฒนามาให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น แถมพ่วงเอาความสะดวกของการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวกลาง เพราะผู้ให้บริการไลท์บล็อกหลายแห่งนั้น ก็สร้างแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือมาให้ใช้
บริการไลท์บล็อกที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในต่างประเทศก็คือ Tumblr และ Posterous ซึ่งผู้นำในตลาดไลท์บล็อกก็คือ Tumblr โดยมี Posterous ที่พยายามตามจี้ติดตลอด ซึ่งก็ทั้งสองแห่งนี้ก็ได้ต่อสู้กันในแง่การพัฒนาบริการกันมาตลอดปี 2553 นี้ ส่วนชาวไทยที่เราเริ่มเห็นใช้กันเยอะขึ้น ก็จะไปอยู่ที่บริการไลท์บล็อกของ Tumblr เสียเป็นส่วนใหญ่

 



เทคนิคเบื้องต้นในการเขียนบทความ (Blogger)

อีกหนึ่งวิธีในการทำการตลาด การสร้างบล็อกส่วนตัว (Blog) และรังสรรค์บทความที่น่าสนใจ นับเป็นหนึ่งในหลายๆวิธีที่จะทำให้เพื่อนๆได้รับสิ่งที่เรียกว่า Personal Branding และยังสามารถทำให้เว็บไซด์ของเพื่อนๆเอง ทำเงินได้มากขึ้นด้วย

บล็อก (blog) ไม่ใช่แค่ความสวยงามอลังการด้วยแฟลชที่กระพริบวิบวับทั่วทั้งบล็อก ไม่ใช่การใส่เทคโนโลยีไฮโซอย่างจาวา ไม่ใช่แค่การติดตั้งปลั๊กอินเต็มพรืด หากว่าบล็อกสวยขั้นเทพ สวยจนเคลิ้มไม่กล้าแม้แต่จะคลิก ไม่รู้กระทั่งว่าควรจะคลิกอะไรดี มันก็ไม่มีความหมาย สิ่งต่างๆที่กล่าวมา นั่นเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ แต่พระ/นางตัวจริงของบล็อก คือบทความต่างหากค่ะ
หลายคนอยากจะทำบล็อกและหลายคนทำบล็อกไปแล้ว แต่มักจะมีเหตุผลบางอย่างคล้ายๆกันโดยมิได้นัดหมายคือ -ไม่รู้จะเขียนอะไรดี- ดิฉันจับสังเกตจากเว็บ Submit Social และเว็บ Submit Article พบบทความมากมายหลั่งไหลสู่ระบบเน็ทเวิร์ค และก็พบอะไรบางอย่าง นอกจากคลิป18+
ก่อนที่จะแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆ เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่าแค่การเขียนบทความลงบล็อกจะมีประโยชน์อะไรกับการตลาด อีกทั้งแค่การขีดๆเขียนๆ จะมีทฤษฎีอะไรที่น่าสนใจมากไปกว่าตัวอักษรที่ละลานตา ถ้าใส่คลิป18+ หรือ Sex Story จะง่ายกว่าไหม?
จริงค่ะ มันอาจจะง่ายกว่า แต่อย่าเพิ่งดูถูกการเขียนบทความนะ  มีนักธุรกิจมากมายที่ประสบความสำเร็จ จากการเขียนบทความเล็กๆน้อยๆ นอกจากโกยรายได้บนโลกออนไลน์ด้วยธุรกิจของเขาแล้ว บางบทความของพวกเขา ได้รับการต่อยอดจนกลายเป็นหนังสือ ได้รับการแปลจนกลายเป็น E-Book กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้อีกประการ
Personal Branding เป็นคำที่นักการตลาดมุ่งหมายให้ได้มาครอบครอง เพราะเมื่อพวกเขามีสิ่งที่เรียกว่า Personal Branding  ถึงเวลาจะหยิบจับอะไรมาขาย ก็ขายได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า มันอาจจะต้องใช้เวลาสักนิด และมีวิธีการมากมายหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีการเหล่านั้นก็คือ การเขียนบทความลงบล็อก มันจะทำให้ผู้คนบนโลกออนไลน์ได้รู้จักตัวตนของคุณ มันคือโอกาสอันหอมหวานที่คุณจะได้ขายตัว(เอง)เป็นอันดับแรก
ปัญหาก็คือ จะเขียนบทความอะไรดีล่ะ (นอกจาก18+)? มาไล่เรียงดูเทคนิคต่างๆกันค่ะ

ค้นหา Content มาแรง หรือเรื่องราวที่ผู้คนให้ความสนใจมากถึงมากที่สุด เท่าที่ผมสังเกตจากการโหวตของบทความต่างๆในเว็บต่างประเทศ บทความที่มาแรง มักจะเป็นบทความดังต่อไปนี้ครับ
·             เพลง เป็นคีย์เวิร์ดที่ถูกเสิร์ชบ่อยมาก (น่าจะบ่อยที่สุดเลยด้วย) การเขียน Content เกี่ยวกับเพลง เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ คุณอาจจะชื่นชอบเพลงใดใดก็ตาม เขียนถึงมันเสียหน่อย เขียนถึงความหมายในเพลง เขียนถึงเนื้อร้องในเพลง หรืออาจจะมีคลิปจาก youtube อาจจะเป็น MV สิ่งเหล่านี้เป็นความบันเทิงที่คนทั้งโลกชื่นชอบ
·             บุคคลมีชื่อเสียง ข่าวในวงการบันเทิง หรือข่าวสารของผู้มีชื่อเสียง หรือคุณอาจจะมีประวัติเล็กๆน้อยๆของบุคคลที่มีชื่อเสียง นำมาสร้างเป็นบทความได้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในวงการบันเทิง การเมือง กีฬา บุคคลในประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่ดาราAV!
·             กีฬา เป็นยาวิเศษ และเป็นบทความที่แสนวิเศษสำหรับชาวบล็อก ผมรู้จักนักธุรกิจคนหนึ่ง เขาทำบล็อกส่วนตัว เมื่อครั้งที่มีเทศกาลฟุตบอลโลก เขาแค่นำตารางการแข่งขันมาแปะลงในบล็อก ปรากฏว่า Traffic ตรึมเลยครับ เรื่องราวของกีฬา เข้าถึงทุกเพศทุกวัยครับ
·             ความรู้รอบตัว คุณคงจำได้ สมัยที่ทำรายงานส่งอาจารย์ คุณจะต้องค้นคว้าหาข้อมูล ในโลกปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่าอินเตอร์เน็ต ทำให้การเข้าถึงข้อมูลไม่ใช่แค่การเข้าห้องสมุดอีกต่อไป เพียงปลายนิ้ว เหมือนที่หลายคนแซวกันว่า อยากรู้อะไรให้ถามอากู๋ (google) ความรู้รอบตัวที่คุณนำมาใส่ในบทความ จะเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอะไรก็ได้ ขอเพียงอย่ามั่ว ให้หาแหล่งที่มาชัดเจน คุณอ่านให้เข้าใจก่อน แล้วจึงเริ่มเขียนในแบบฉบับของคุณ ไม่ยากเลย กับการที่จะอธิบายอะไรสักอย่างตามที่ตัวเองเข้าใจ ลองนึกถึงสาวๆในมหาวิทยาลัยทำรายงานฉบับหนึ่งส่งอาจารย์ แล้วเขาอ้างบรรณานุกรมถึงบล็อกของคุณ มันดูดีมีเสน่ห์ขนาดไหนล่ะ จริงไหม
·             เทคโนโลยี มือ ถือ รถ แล็ปท็อป หรือข่าวสารอัพเดทด้านเทคโนโลยี เป็นอีกเรื่องราวที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุด แค่คุณติดตามข่าวสาร IT หรือเทคโนโลยีต่างๆ ก็นับว่าเป็น Content ที่เขียนง่ายๆ รีวิวง่ายๆและน่าสนใจมากครับ
·             แจกของฟรี Content นี้กำลังเป็นที่นิยมมาก ขอเพียงอย่าให้ผิดลิขสิทธิ์ก็พอครับ คุณจะแจกอะไรก็ได้ ภาพถ่ายวิวสวยๆที่คุณถ่ายเอง, คลิปน่ารักของสัตว์เลี้ยงของคุณ, E-Book, หรือแม้แต่แจกรูปของคุณเอง (ถ้ามั่นใจพอนะ) ตัวอย่างที่เห็นตามบล็อกต่างๆ มักจะแจกรูปwallpaper แจก Theme แจกของแต่งบล็อก เป็นต้น
·             Odd Stuff รวมเรื่องแปลก คนเรามีนิสัยอย่างหนึ่งที่เหมือนๆกันคือ ชอบของแปลก พอได้ยินเรื่องราวอะไรที่แปลกๆก็เกิดอยากจะรู้ขึ้นมาทันที เรื่องแปลกในที่นี้ อาจจะเป็นเรื่องลึกลับ, เรื่องผี, เรื่องประหลาด, ที่สุดในโลก, หรือถ้าคุณคิดว่าแฟนของคุณเป็นคนแปลกๆ คุณจะเอามาเขียนก็ได้ไม่ว่ากัน
นอกจากนี้ ก็ยังมี Content ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งผมคิดว่าง่ายดายสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำบล็อกมากๆครับ
·             ไดอารี่ Content คลาสสิคที่สุดครับ บันทึกประจำวันส่วนตัวของคุณ ผมไม่ค่อยเห็น Content นี้ในเว็บต่างประเทศ แต่ถ้าจะให้พูดกันจริงๆ จุดกำเนิดของการเขียนบล็อกก็มาจากการเขียนไดอารี่ออนไลน์นี่แหละครับ และมันก็เป็นนิสัยอีกอย่างของคนเรา คือการได้รู้เรื่องของคนอื่นนั่นเอง แต่การจะเขียนไดอารี่ให้น่าสนใจนั้น ไม่ใช่แค่การเขียนว่าตื่นกี่โมงแล้วนอนกี่โมง ขอให้คุณเลือกเขียนเหตุการณ์เด่นๆประจำวันในชีวิตของคุณ เช่นว่า วันนี้คุณไปเดินเที่ยวที่พาราก้อนแล้วเดินชนอั้มพัชราภา อั้มขอโทษคุณด้วยการพาไปเลี้ยงชาบู แบบนี้เป็นต้น การเขียนไดอารี่ เป็นการสื่อถึงความคิดของคุณได้ชัดเจนที่สุดครับ ยิ่งถ้าคนอ่านหลงไหลในไดอารี่ของคุณ เขาจะตามติดคุณทุกฝีก้าวราวกับฆาตกรโรคจิตเลยล่ะครับ
·             Your Favorite เรื่องอะไรก็ได้ที่คุณถนัด สิ่งใดใดก็ตามที่เป็นความสามารถของคุณ แน่นอน คุณไม่ใช่คนมีชื่อเสียง ข่าวสารเกี่ยวกับคุณหรือสิ่งที่คุณมี ไม่ได้ส่งอิทธิพลต่อสังคม หากแต่ว่า คุณไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถ จริงไหม? มีเรื่องราวมากมายที่คุณชอบ และอีกหลายต่อหลายเรื่องที่คุณทำได้ งัดมันออกมา บอกเล่าออกมา ไม่ยากเลยกับการเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเองหรือเกี่ยวกับสิ่งที่คุณชื่นชอบ

ลิงค์การตั้งค่า Windows Live Writer เพื่อเขียนบล็อก


วิธีสร้างบล็อก





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น